ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะ เรื่อง การกำหนดกิจการที่ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ --------------------------------------------- อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 91/13 (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ. ศ. 2534 อธิบดี กรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการประกอบกิจการที่เป็นการประกอบกิจการเป็นการชั่วคราว ที่ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ ไว้ดังนี้ ข้อ 1 กำหนดให้การประกอบกิจการดังต่อไปนี้ เป็นการประกอบกิจการชั่วคราว (1) การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการตามมาตรา 4(5) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ. 2541 โดยการขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมิใช่ การขายอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 4(1) (2) (3) และ (4) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตาม ความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ. 2541 (2) การขายอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 4(6) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.
ถืออยู่ 3, 000 หุ้น ขาย ข. ถือที่ 5, 000 หุ้น และนาย ค. ก็ถือที่ 2, 000 หุ้น โดยเลือกชำระค่าหุ้นตามขั้นต่ำได้เลย นั่นคือที่กฎหมายกำหนดเอาไว้จะต้องไม่ต่ำกว่า 25% ของทุนจดทะเบียน เมื่อบริษัท บุญทับ จำกัด นั้นมีทุนจดทะเบียนบริษัทอยู่ที่ 1 ล้านบาท หุ้นส่วนแต่ละคนก็จะจ่ายตามสัดส่วนตัวเอง คิดที่ 25% ก็จะได้เป็น นาย ก. ต้องจ่าย 75, 000 บาท นาย ข. ต้องจ่ายที่ 125, 000 บาท และ นาย ค. ก็ต้องจ่ายที่ 50, 000 บาท รวมกันแล้วก็จะได้ 250, 000 บาท ซึ่งยอดที่ชำระแล้วของบริษัทนี้ก็คือ 250, 000 บาท จากทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาทนั่นเอง ส่วนผลตอบแทนของบริษัทก็จะจ่ายให้ใครมากน้อยกว่ากันก็ตามสัดส่วนของหุ้นที่แต่ละคนถือ ใครถือเยอะสุดก็จะได้ผลตอบแทนมากสุดเป็นธรรมดา
2547 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 30 กรกฎาคม พ. 2547 ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อธิบดีกรมสรรพากร
ภาษีธุรกิจเฉพาะคือภาษีที่เก็บจากกิจการบางประเภทที่กฎหมายกำหนดเป็นพิเศษแยกจากภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยกรมสรรพากรเป็นผู้จัดเก็บจากธุรกิจที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล โดยผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะด้วยแบบคำขอ ภ. ธ. 01 ภายใน 30 วันนับแต่วันเริ่มกิจการ กิจการที่ต้องเสียธุรกิจเฉพาะมีอะไรบ้าง 1. กิจการธนาคาร 2. ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ 3. การรับประกันชีวิต 4. การรับจำนำ 5. การประกอบการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ การให้กู้ยืมเงินค้ำประกัน แลกเปลี่ยนเงินตรา ออก ซื้อ หรือขายตั๋วเงิน หรือรับส่งเงินไปต่างประเทศด้วยวิธีต่างๆ 6. การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร 7. การซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ 8.
นภัสรัญช์ บุญสร้าง ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษ๊ธุรกิจเฉพาะ โดยอาจารย์ รุ่งรัศมี รอดขำ
2541 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ 5) ใช้บังคับ 1 มกราคม 2542 เป็นต้นไป) (3) การให้กู้ยืมเงินของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มิใช่ธนาคาร พาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัท เครดิตฟองซิเอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจ เครดิตฟองซิเอร์ ซึ่งให้กู้ยืมเงินเป็นครั้งคราวมิใช่การประกอบกิจการเป็นปกติธุระ ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ. 2535 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ. 2535 ม. ร. ว. จัตุมงคล โสณกุล อธิบดีกรมสรรพากร
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 RD Intelligence Center 1161
leningnederland.com, 2024